1. พระขุนแผนหน้าตะโพน หลวงพ่อแช่ม อินทสโร วัดตาก้อง นครปฐม 2470
#พระขุนแผนหน้าตะโพน หลวงพ่อแช่ม อินทสโร วัดตาก้อง นครปฐม 2470 #จักรพรรดิ์พระมหาเมตตาใหญ่...องค์เดียวจบ!! #พร้อมบัตรรับรองพระแท้จากทางสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย #พระขุนแผนหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง จัดเป็นพระที่หายากมากๆเป็นพระที่บูชาแล้วเห็นผลจริง ขอยอดได้ บนได้ บูชาแล้วยอดขายพรั่งพรู จึงนิยมหามาบูชาโดยเฉพาะชาวจีนเป็นอย่างมาก ประสบการณ์เป็นเอกด้านเมตตา มหานิยม ว่ากันว่า เพราะดินหน้าตะโพนติดอยู่หน้ากลองอันเป็นเครื่องดนตรีที่เสียงดังที่สุด #จึงเหมาะแก่ผู้ที่ต้องการมีชื่อเสียงโด่งดัง #เป็นที่รักเมตตาของมหาชนจํานวนมากๆ เช่นนักแสดง นักการเมือง #แม้แต่พ่อค้าแม่ค้าก็จะทําให้ค้าขายดีเป็นเทน้ําเทท่าไปด้วย วัตถุมงคลของหลวงพ่อแช่มที่ท่านสร้างและปลุกเสกนั้น ไม่ว่าจะเป็นอะไรล้วนแต่มีประสบการณ์กับผู้ใช้อย่างกว้างขวาง ซึ่งไม่ใช่เป็นเพราะว่า ท่านเก่งทางคาถาอาคมอย่างเดียว แต่ท่านยังมีอํานาจทางพลังจิตสูงด้วย เล่ากันว่า หลวงพ่อแช่มท่านสําเร็จ กสิณ ซึ่งผู้ใดที่สําเร็จกสิณจะสามารถแสดงฤทธิ์ได้แบบที่คนธรรมดาทําไม่ได้ ในเรื่องของวิชาอาคมหรือไสยศาสตร์นี้ ถ้าหากปราศจากพลังอํานาจทางจิต การนําเอาวิชาอาคม หรือไสยศาสตร์มาใช้ก็ไม่ได้ผล แต่สําหรับผู้ที่มีพลังอํานาจจิตแล้วจะสามารถนําเอาวิชาเหล่านี้มาใช้ได้ผลเป็นที่ศักดิ์สิทธิ์ตามที่ตําราบอกเอาไว้จริงๆ ในบรรดาวัตถุมงคลของหลวงพ่อแช่มก็มี พระขุนแผนดินหน้าตะโพน อีกอย่างหนึ่งที่เป็นของดีน่าใช้ และราคาก็ไม่แพงด้วย แต่เมื่อดูถึงขั้นตอนของวิธีการสร้างแล้วพระขุนแผนดินหน้าตะโพนของหลวงพ่อ แช่มเป็นของดีที่ไม่อาจมองข้ามไปได้เลย เหตุที่เรียกพระเครื่องพิมพ์นําหน้าว่า พระขุนแผน นั้น ก็เนื่องมาจากหลวงพ่อแช่มท่านสร้างพิมพ์โดยเลียนแบบมาจาก พระขุนแผนพิมพ์พลายเดี่ยว กรุวัดบ้านกร่าง จ. สุพรรณบุรี แต่มีขนาดเล็กกว่ามาก ส่วนด้านหลังเป็นยันต์คล้ายตัว อุณาโลม กดเป็นร่องลึก ส่วนที่เรียก ดินหน้าตะโพน ตามหลังก็เนื่องมาจากว่า หลวงพ่อแช่มท่านนําเอาดินที่ปิดหน้ากลองตะโพนมาสร้าง ตะโพน เป็นกลองชนิดหนึ่ง มีลักษณะหัวสอบ ท้ายสอบ ขึงด้วยหนังทั้งสองข้าง มีขารอง ใช้ตีด้วยฝ่ามือ ที่หนังกลองทั้งสองข้างนิยมเอาดินละเอียดกับข้าวสุกมาคลุกให้เข้าด้วยกันแล้วปิดเอาไว้ ซึ่งจะทําให้เมื่อตีแล้วมีเสียงทุ้มไพเราะน่าฟัง ในการละเล่นสมัยก่อนจะมีกลองตะโพนเป็นเครื่องดนตรีประกอบเอาไว้ด้วยเสมอๆ สมัยก่อนดินที่นํามาผสมกับข้าวสุกเพื่อปิดหนังหน้ากลองตะโพนนั้น นิยมเอาไปให้อาจารย์ที่มีความรู้ทางวิชาอาคม ผสมของดีทางเมตตามหานิยม และปลุกเสกให้โดยเชื่อกันว่า เมื่อเอาดินผสมข้าวสุกและของดีและปลุกเสกแล้วมาปิดที่หนังหน้ากลองตะโพน เวลาตีจะทําให้มีเสียงไพเราะทําให้คนได้ยินได้ฟังเกิดความหลงใหล และอยากจะดูการละเล่นนั้นๆ เล่ากันว่า สมัยก่อนเมื่อมีการละเล่นจะต้องมีการบรรเลงเครื่องดนตรีเป็นการโหมโรงก่อน เสียงจากการโหมโรงซึ่งมีเสียงกลองตะโพนประกอบอยู่ด้วยนั้น เมื่อใครได้ยินแล้วจะร้อนรุ่มอยู่บ้านไม่ได้ต้องมาดูการละเล่นนั้นๆ หลวงพ่อแช่มท่านก็มีคนมาขอให้ท่านปลุกเสกดินที่จะนําไปติดที่หน้ากลองตะโพนอยู่เสมอๆ แม้แต่กลองตะโพนใบใหญ่ของวัดตาก้อง หลวงพ่อแช่มท่านก็เอาดินชนิดนี้ไปปิดที่หน้ากลองด้วย ซึ่งกลองใบนี้ทางวัดจะใช้ตีเวลาทางวัดมีงานหรือตรงกับวันพระ พอตีแล้วเสียงกลองนี้จะได้ยินไปไกล ชาวบ้านพอได้ยินเสียงกลองก็จะพากันมาทําบุญที่วัดกันหลายๆ คน แต่ดินที่ใช้ปิดหน้ากลองตะโพนนี้ เมื่อผ่านไปหลายๆ วันก็จะแห้งและแตกหลุดออกมาจะต้องทําใหม่ปิดอยู่เรื่อยๆ ซึ่งหลวงพ่อแช่มท่านก็รู้ถึงเคล็ดลับทางเมตตามหานิยมของดินหน้าตะโพนชนิดนี้ดี ครั้นเมื่อดินหน